การวัดการกระจายของข้อมูล แบ่งออกเป็น 2 วิธีดังนี้
1. การวัดการกระจายสัมบูรณ์ ( absolute variation ) หมายถึง การวัดการกระจายของข้อมูลชุดเดียว เพื่อศึกษาว่าข้อมูลแต่ละค่ามีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงไร การวัดการกระจายสัมบูรณ์ที่นิยมใช้มี 4 วิธี คือ
1.1 พิสัย (Range)
1.2 ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ (Quartile Deviation )
1.3 ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย ( Mean Deviation )
1.4 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( Standard Deviation )
การวัดการกระจายสัมบูรณ์ในระดับนี้จะศึกษาเฉพาะพิสัยและส่วนเบี่บงเบนมาตรฐาน
พิสัย (Range ) คือ ค่าผลต่างระหว่างค่าสูงสุดของข้อมูลและค่าต่ำสุดของข้อมูล
1. พิสัยของข้อมูลที่ไม่ได้แจกแจงความถี่
ตัวอย่างที่ 1 จากข้อมูลต่อไปนี้ 2 , 16 ,15 ,14 , 9 , 8 , 12 , 25 จงหาพิสัย
วิธีทำ พิสัย = ค่าสูงสุด - ค่าต่ำสุด
= 25 - 2
พิสัย = 23
2. พิสัยของข้อมูลที่แจกแจงความถี่
ตัวอย่างที่ 2 ตารางต่อไปนี้ แสดงความสูงของนักเรียน ปวช.1/2 และ ปวช.1/5
จงหาพิสัยของความสูงของนักเรียน ปวช.1/2 และ ปวช.1/5
วิธีทำ พิสัย = ขอบบนของอัตรภาคชั้นที่มีค่าสูงสุด - ขอบล่างของอันตรภาคชั้นที่มีค่าต่ำสุด
= 181.5 - 161.5
= 20
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( Standard Deviation )
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็นการวัดการกระจายที่นำข้อมูลทุกค่ามาคำนวณเป็นวิธีที่นักสถิตินิยมใช้มากที่สุดและเป็นวิธีที่ใช้ในการวัดการกระจายได้ดีที่สุดสามารถไปใช้ในสถิติขั้นสูงต่อไป ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานใช้สัญลักษณ์ S หรือ S.D.และความแปรปรวน (Variance)ใช้สัญลักษณ์
1. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลที่ไม่ได้แจกแจงความถี่
ตัวอย่างที่ 3 จากข้อมูลต่อไปนี้ แสดงราคาส้มต่อกิโลกรัม จากร้านค้า 10 ร้าน ดังนี้
20 , 30 , 25 , 24 , 26 ,50 ,32 , 18 , 55 , 40
จงหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและความแปรปรวนของราคาส้มต่อกิโลกรัม
วิธีทำ จากข้อมูลที่ให้มาจะเห็นว่าข้อมูลไม่ได้มีการแจกแจงความถี่จะ
Click for full-size image |
จะได้ สูตรการหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สูตรความแปรปรวน
ตัวอย่างที่ 4 จากตารางแจกแจงความถี่เกี่ยวกับเวลาที่ใช้ในการเดินทางจากที่พักมาวิทยาลัยของนักศึกษา
กลุ่มหนึ่งเป็นดังนี้
จงหาความแปรปรวนและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
Click for full-size image |
Click for full-size image |